ข้อมูลติดต่อบริษัทไอโซแคร์

เทคโนโลยี 5 G รุกคืบมาใกล้แล้ว

5G คืออะไร? มีประโยชน์อย่างไร ? ปี พ.ศ. 2563 พร้อมใช้หรือยัง ?
ปรับปรุงข้อมูล ณ วันที่ 08/01/2020
เขียนและ เรียบเรียงโดย เกียรติศักดิ์ คิดนุนาม ISOCARE SYSTEMS CO,;LTD.

5G คืออะไร ?

   5G คือเทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สายยุคที่ 5 (5th Generation) เทคโนโลยีที่ลงท้ายด้วย G ต่างก็เป็นเทคโนโลยีสื่อสารแบบไร้สายทั้งนั้น โดยอาศัยคลื่นความถี่เป็นตัวนำพา และที่ผ่านมาได้นำมาใช้กับระบบโทรศัพท์มือถือเป็นหลัก
 5G pict03    ก่อนที่จะไปถึง 5G เรามาเริ่มทำความรู้จักแต่ละ G (Generation) กันก่อน
    - ยุค 1G ยุคนั้นเป็นยุคที่เราคุยกันด้วยเสียงผ่านมือถือระบบอนาล็อก จริงๆชื่อ 1G ไม่ค่อยเรียกขานกันหรอก เป็นยุคของโทรศัพท์มือถือขนาดใหญ่เทอะทะเหมือแกลลอนน้ำมันเครื่อง (คนหิ้วก็วางมาดคิดว่าตัวเองดูเท่ห์) เทคโนโลยีนี้ทำให้เราสามารถสนทนาด้วยเสียงในระยะทางไกลได้
    - ยุค 2G นอกจากเราจะสนทนากันด้วยเสียงแล้ว เรายังสามารถส่งข้อความสั้นๆ หรือ SMS ติดต่อสื่อสารกันได้เพิ่มเข้ามา
    - ยุค 3G สามารถเชื่อมต่อและใช้งานอินเทอร์เน็ต เพื่อส่งข้อมูลผ่านมือถือได้ด้วยความเร็วระหว่าง 20kbps- 42.2Mbps เทคโนโลยียุคนี้สามารถท่องอินเตอร์เน็ตดูเว็บ ดูวีดีโอสตรีมมิ่งได้แล้ว แต่ยังไม่เร็วเท่าไหร่ และความละเอียดไม่สูงมากนัก
    - ยุค 4G สามารถดูภาพ เสียง หรือหนังออนไลน์ได้ที่ความเร็วเพิ่มขึ้นเป็น 100 Mbps(4G LTE), 150 Mbps (4G LTE Cat.4) และ 1,000 Mbps (4G LTE Advanced) ยุคนี้ถือเป็นยุคที่คนใช้อินเทอร์เน็ตกันอย่างจริงจัง ทั้งในด้านการทำงาน และการดำรงชีวิตกันมากขึ้น เราติดตามข่าวสารกันบนโลกออนไลน์ ไลฟ์สด ดูหนังฟังเพลงเป็นเรื่องๆ ได้ผ่านสตรีมมิ่ง มีการทำธุรกรรมการเงิน ซื้อของสินค้าผ่านออนไลน์ และอื่นๆ กันอย่างจริงจัง
   - ยุค 5G เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่ 5 ของระบบการสื่อสาร ที่อนาคตจะไม่ใช่แค่ใช้กับโทรศัพท์มือถือเป็นหลักเท่านั้น แต่จะรวมถึงใช้กับอุปกรณ์ทุกชนิดที่เชื่อมอินเตอร์เน็ตได้ (Internet of Things หรือ IoT)
     ยุค 2G 3G ประเทศไทยเรามักมีใช้แพร่หลายตามหลังประเทศแถบอเมริกาและยุโรปอยู่หลายปี ยุค 4G ดีขึ้น ไทยเราใช้ตามหลังไม่นาน ส่วนยุค 5G ประเทศไทยคาดว่าจะได้ใช้แพร่หลายในช่วงเวลาเดียวกันกับประเทศแถบอเมริกา ยุโรป จีน และประเทศอื่นๆอีกมาก และเป็นที่น่ายินดีที่รัฐบาลเองก็มีนโยบายให้การสนับสนุนและผลักดันอย่างจริงจัง
 

คาดการณ์ 5 เทคโนโลยีปี 2017 ทิศทางและแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น

แหล่งข้อมูล : ComToday (aripfan.com 1 Jan 2017) ซึ่งเนื้อหาอ้างอิงจากนิตยสาร TIME

----------------------------------------

ปี 2017 มีการคาดการณ์ว่าเทคโนโลยีจะก้าวเข้ามีบทบาทมากขึ้นในทุกๆ อุตสาหกรรม ความทันสมัยของเทคโนโลยีจะช่วยให้มนุษย์สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมตอบสนองความต้องการในเรื่องต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น ในปีที่ผ่านมีหลายเหตุการณ์ที่เริ่มสะท้อนให้เราเห็นภาพที่ชัดเจนของเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะนำไปสู่การต่อยอดในปีถัดไป และในปี 2017 นี้วงการเทคโนโลยีจะมีทิศทางอย่างไรและจะมีเรื่องใดบ้างที่เราควรต้องจับตามอง

1. โดนัลด์ ทรัมป์” กับนโยบายด้านเทคโนโลยี

trumps

หลายคนที่ติดตามการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อครั้งล่าสุด จะพบว่าหลายบริษัทเทคโนโลยีใน Silicon Valley ไม่ได้ให้การสนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ เท่าใดนัก เนื่องจากตลอดการหาเสียงทรัมป์ยังไม่มีนโยบายด้านเทคโนโลยีที่ชัดเจน แม้หลังการเลือกตั้งทรัมป์ได้เชิญเหล่า CEO บริษัทไอทีทั่วโลกมาร่วมพูดคุยในเรื่อง “อุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐฯ” แต่การคาดเดาที่ยากเย็นอาจเป็นปัญหาในการขับเคลื่อนเทคโนโลยี ตลอดจนสร้างความกังวลให้กับวงการไอทีไปทั่วโลก ซึ่งน่าสนใจว่านับจากนี้้เป็นต้นไปเราจะเห็นนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีต่อวงการเทคโนโลยีอย่างไรและจะมีผลกระทบมากน้อยเพียงใดต่อวงการไอทีโลก

Gartner คาดการณ์ 10 แนวโน้มเทคโนโลยีสำหรับปี 2016

Gartner's top 10 technologies for 2016

---------------------------------------------------------------------------------------------

ในปัจจุบันมีแนวโน้มว่าในปี2020จะมีการขยายตัวของอุปกรณ์ดิจิทัลอย่างรวดเร็วซึ่งอุปกรณ์ในกลุ่ม Smart ทั้งหลายจะช่วยให้เชื่อมโยงกันง่ายขึ้น ในอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้เราสามารถควบคุมเครือข่ายอุปกรณ์ในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้เรียกว่า “Internet of Things” หรือ IoT คือสภาพแวดล้อมอันประกอบด้วยสรรพสิ่งที่สามารถสื่อสารและเชื่อมต่อกันได้ผ่านโพรโทคอลการสื่อสารทั้งแบบใช้สายและไร้สาย

internet of thing

1.ระบบควบคุมอุปกรณ์ในชีวิตประจำวัน (Device Mesh)

เป็นแนวโน้มที่ต่อยอดไปอีกจาก Internet of Things โดยประเด็นแรกคือการที่ผู้ใช้งานแต่ละคนจะมีการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Mobile Device, Wearable(อุปกรณ์สวมใส่), เครื่องใช้ไฟฟ้าตามบ้าน, อุปกรณ์บนรถยนต์ และอุปกรณ์ทางด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งก็คือ Sensors ในระบบ Internet of Things นั่นเอง
นอกจากนี้ระบบ Back-end สำหรับ Internet of Things ที่ปัจจุบันยังมีการแยกขาดจากกันสำหรับแต่ละผู้ผลิตนั้น แต่ในอนาคตอาจสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้อีกด้วย

โปรแกรมสหกรณ์รูปแบบ Web Application มีประโยชน์อย่างไร

โปรแกรมสหกรณ์รูปแบบ Web Application มีประโยชน์อย่างไร
   ปรับปรุงเพิ่มเติม กรกฏาคม 2563
 
1. รูปแบบของโปรแกรมประยุกต์หรือโปรแกรมระบบงาน
โปรแกรม ระบบงานที่ใช้สำหรับสหกรณ์ หรืองานอื่น ๆ จะมีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยของการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี มีชื่อเรียกกันง่าย ๆ อยู่ด้วยกัน 3 รูปแบบ หรือ 3 ยุค คือ
   (1) รูปแบบหรือยุค DOS Applicationช้เทคนิดของ DOS ซึ่งไม่มีความสามารถด้านกราฟิค
   (2) รูปแบบหรือยุค Desktop Application หรือมักเรียกกันทั่วไปว่า Windows Application ใช้เทคนิคของ Windows โดยเพิ่มเรื่องกราฟิคเข้ามา และมีเทคนิคอื่นๆผสมผสานอีกหลายด้าน
   (3) รูปแบบหรือยุค Web Application เป็นการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรูปแบบจาก Windows Application โดยใช้เทคนิคที่สามารถรองรับเทคโนโลยีของเว็บได้ คุณสมบัติสำคัญของเทคโนโลยีของเว็บคือ
        - ใช้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ที่สามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ (ปัจจุบันสามารถใช้อินเตอร์เน็ตผ่านระบบ 3G หรือ 4G หรือ 5G หรือ WIFI ได้)
        - ใช้กับอุปกรณ์ไอทีได้หลากหลาย เช่น Computer PC, Notebook, Tablet หรือ โทรศัพท์มือถือ
ในปัจจุบัน การพัฒนาในรูปแบบ DOS Application หมดไปแล้ว การพัฒนาในรูปแบบ Windows Application ยังมีอยู่ แต่จะค่อย ๆ หมดไปด้วยกระแสการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ในปัจจุบันและในอนาคต ทั้งระบบคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ที่ใช้เป็นเครื่องพัฒนา และบุคลากรรุ่นใหม่ จะมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการพัฒาในรูปแบบ Web Application และมีผลเกี่ยวเนื่องไปถึงการพัฒนา Mobile Application (ที่เรียกกันติดปากว่า "แอป") ซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบันและต่อไปในอนาคต

Cloud Computing กับสหกรณ์

cloud technology เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือไอที (Information Technology : IT) ในปัจจุบัน(คศ.2012) มีความก้าวหน้า และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ได้มากขึ้นเป็นลำดับ ทุกวันนี้มีระบบ 3G หรือ WIFI ที่ทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถใช้ไอทีผ่านระบบนี้โดยใช้คอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือได้สะดวกรวดเร็ว ผู้ให้บริการไอทีทั้งหลายก็ต้องปรับตัวให้ทันกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี เพื่อความก้าวหรือเพื่อความอยู่รอด เทคโนโลยีสารสนเทศหลักที่มีบทบาทสำคัญในปัจจุบัน และจะสำคัญยิ่งในอนาคต คือ เทคโนโลยีของเว็บ(Web Technology) เทคโนโลยี Cloud Computing (ชื่อภาษาไทยยังไม่ลงตัว)